|
บทคัดย่อ (THAI):
|
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงศึกษาประเภทและสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ โดยทำการสอบถามกลุ่มตัวอย่างนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวน 400 ราย การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อนักท่องเที่ยวใช้วิธีการของลิเคิร์ท ส่วนการทดสอบความแตกต่างของความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยและประเภทของค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวจำแนกตาม อาชีพ รายได้ โดยใช้สถิติค่า t (t-test)
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นหญิงโสด อายุเฉลี่ย 31ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป เป็นผู้ที่มีรายได้ประจำเช่นพนักงานบริษัทเอกชน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 7,938 หยวนต่อคน
ปัจจัยที่มีผลต่อการเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่อันดับ 1 คือปัจจัยดึงดูดซึ่งประกอบด้วยความสวยงามและความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อันดับ 2 เป็นปัจจัยผลักดันซึ่งประกอบด้วยความต้องการหาประสบการณ์ใหม่ ๆ จากการท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวมีวันหยุดหรือเวลาว่างมากขึ้น
เมื่อพิจารณาปัจจัยที่ผลต่อการมาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่จำแนกตามระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ พบว่ากลุ่มตัวอย่างที่มีการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไปให้คะแนนเฉลี่ยมากกว่ากลุ่มตัวอย่างที่มีการศึกษาไม่เกินระดับปริญญาตรี กลุ่มตัวอย่างที่มีรายได้ประจำให้คะแนนเฉลี่ยมากกว่ากลุ่มตัวอย่างที่มีรายได้ไม่ประจำ กลุ่มตัวอย่างที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 6,001 หยวนขึ้นไปให้คะแนนเฉลี่ยมากกว่ากลุ่มตัวอย่างที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 6,000 หยวน ทั้งปัจจัยผลักดันและปัจจัยดึงดูดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
กลุ่มตัวอย่างมีวัตถุประสงค์ในการท่องเที่ยวส่วนใหญ่เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ เดินทางมาครั้งแรกโดยร่วมเดินทางมากับเพื่อนส่วนใหญ่จัดการท่องเที่ยวด้วยตัวเองพักโรงแรมมีระยะเวลาพำนัก เฉลี่ยคนละ 7 วัน มีความพึงพอใจด้านอัธยาศัยของชาวเชียงใหม่มากที่สุดรองลงมาคือสิ่งดึงดูดใจทางธรรมชาติ วัฒนธรรมและประเพณีที่หลากหลาย และคุณภาพการให้บริการของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวตามลำดับ
กลุ่มตัวอย่างที่เดินทางมาท่องเที่ยวด้วยตัวเองมีค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวเฉลี่ยคนละ 1,168หยวนต่อวัน โดยเป็นค่าใช้จ่ายทางด้านที่พัก อาหารและเครื่องดื่มตามลำดับ ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่เดินทางมาท่องเที่ยวผ่านบริษัทนำเที่ยวมีค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว คนละ 1,544 หยวนต่อวัน โดยส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้กับบริษัทนำเที่ยว
เมื่อพิจารณาประเภทค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะท่องเที่ยวด้วยตัวเองหรือผ่านบริษัทนำเที่ยวจำแนกตามอาชีพและรายได้ พบว่า กลุ่มตัวอย่างผู้มีรายได้ประจำ ผู้ที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 6,001 หยวนขึ้นไปมีค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวทุกประเภทสูงกว่า ผู้ที่มีรายได้ไม่ประจำ ผู้ที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 6,000 หยวน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
คำสำคัญ : ปัจจัย ค่าใช้จ่าย ท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวชาวจีน จังหวัดเชียงใหม่
|
|
Abstract:
|
This study aims to examine the determining factors and the behavior of Chinese tourists regarding their visit to Chiang Mai Province, as well as to understand the types including the proportion of their tourism expenditure during their stay in Chiang Mai. The needed information was collected from 400 samples of Chinese visitors to Chiang Mai. The analysis pertaining to the deciding factors for these Chinese tourists to visit Chiang Mai was based on the results of Likert’s scale ratings. Meanwhile, t-test was applied to understand the difference in terms of factors affecting the visit to Chiang Mai and tourism expenditure between groups of Chinese tourists with different occupation and income levels.
The general personal background information provided the findings that most Chinese tourists under study are characterized as single female, 31 years old on the average, with bachelor’s degree or higher level education, being a fixed income earner from such employment as private company employee, and earning averagely 7,938 Yuan per month per person.
The study on the determining factors for these Chinese tourists to visit Chiang Mai revealed the most important is the pull factor including the attractiveness and diversity of tourism attractions, and safety in life and properties; and the next most important is the push factor including the personal desire to gain new experience from traveling and the availability of more free time or more holidays.
The test of difference at statistically significant level between groups indicated that the samples with education higher than Bachelor’s degree assigned higher scores than those with education not higher than Bachelor’s degree, the samples with fixed income assigned higher scores than those with unfixed income, and the samples with income above 6,001 Yuan per month per person assigned higher scores than those with income not exceeding 6,000 Yuan per month per person, for both pull and push factors.
On tourists’ behavior, it was found that most Chinese tourists had rest and recreation as the primary travel and tourism objective, visited Chiang Mai for the first time, traveled with friends, managed the travel plan themselves, stayed at hotel for an average 7 days’ duration, and felt most satisfied with the hospitality of Chiang Mai people followed by natural attractions, diverse tradition and culture, and the service quality of various businesses involved in the tourism industry, in descending order.
When distinguished into different groups according to travel arrangement, those tourists traveling on their own management were found to spend tourism expenses on the average 1,168 Yuan per day per person primarily for lodging, food, and beverage, respectively while those using services of tour and travel company appeared to spend their expenses on the average 1,544 Yuan per day per person and mostly was the payment for the tour company.
By occupation and income background, the tourists’ expenditure was found to be different regardless whether traveling on one’s own management or through tour and travel company services. Those Chinese tourists with fixed income and earning more than 6,001 Yuan per month per person spent more on every kind of tourism expenditure more than those with unfixed income and earning less than 6,000 Yuan per month per person, and the difference is statistically significant.
Key world : Factors, Expenses, Travelling, Chinese Tourists, Chiang Mai Province
|