|
บทคัดย่อ (THAI):
|
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการดำเนินงานการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ปัจจัยที่ก่อให้เกิดหนี้ค้างชำระ และพฤติกรรมการเข้าร่วมโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้ค้างชำระของหน่วยบริหารคุณภาพสินทรัพย์ช้างคลาน ธนาคารกสิกรไทย จังหวัดเชียงใหม่ โดยทำการสอบถามลูกหนี้ค้างชำระทั้งหมด จำนวน 500 ราย การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา และการใช้น้ำหนักความสำคัญของปัจจัยที่ทำให้เกิดหนี้ค้างชำระโดยใช้ลิเคิทสเกล
ผลการศึกษาพบว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 มีลูกหนี้ที่อยู่ในโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จำนวน 500 ราย ต่อมาในเดือนกรกฎาคม 2559 พบว่าเป็นลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารร้อยละ 11 ที่เหลือยังเป็นลูกหนี้ที่ยังอยู่ในโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ร้อยละ 89 ซึ่งลูกหนี้เหล่านี้เป็นลูกหนี้ที่ผ่อนชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขร้อยละ 66 และในจำนวนที่ผ่อนชำระได้ตามเงื่อนไขของธนาคารนั้นลูกหนี้ยังคงมีภาระหนี้กับธนาคารอยู่จำนวนร้อยละ 97 ของลูกหนี้ที่ผ่อนชำระได้ตามเงื่อนไข มีเพียงร้อยละ 3 ที่ชำระหนี้กับธนาคารหมดแล้ว
ลูกหนี้ที่อยู่ในโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุเฉลี่ย 39 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว มีรายได้ต่อเดือน 25,001 - 45,000 บาท ปัจจัยหลักที่ทำให้ลูกหนี้ค้างชำระมากเป็นอันดับ 1 มาจากตัวลูกหนี้ ซึ่งได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการดูแลบุคคลในครอบครัวเพิ่มขึ้นและระดับรายได้ของครอบครัวลดลง อันดับที่ 2 มาจากการที่ประเทศประสบภาวะเศรษฐกิจซบเซาและนโยบายของรัฐบาลไม่ส่งเสริมการลงทุนและกระตุ้นการใช้จ่ายต่างๆ
ลูกหนี้ที่อยู่ในโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ได้รับสินเชื่อกับธนาคารกสิกรไทย มีวงเงินสินเชื่อกับธนาคารเฉลี่ยรายละ 3,236,792 บาท โดยส่วนใหญ่ใช้โฉนดที่ดินเป็นหลักประกัน ระยะเวลาการผ่อนชำระเฉลี่ยรายละ 15 ปี ขณะนี้ลูกหนี้มีหนี้ค้างชำระกับธนาคารกสิกรไทยเฉลี่ยรายละ 2,676,990 บาท ลูกหนี้ทุกคนเลือกเงื่อนไขวิธีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้โดยลดดอกเบี้ยในสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้โดยส่วนใหญ่ลดจากสัญญาเดิมเหลือร้อยละ 3 ต่อปี นอกจากนั้นยังเลือกขยายระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปและการแปลงหนี้ระยะสั้นเป็นระยะยาว หลังจากปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้วลูกหนี้ผ่อนชำระกับทางธนาคารเฉลี่ยรายละ 8,833 บาทต่อเดือน
คําสําคัญ : ปัจจัยค้างชำระหนี้, การปรับปรุงโครงสร้างหนี้, ธนาคารกสิกรไทย
|
|
Abstract:
|
The present study has the objectives to examine the operational status of debt restructuring program implemented by Chang Khlan unit of asset quality management of Kasikorn Bank in Chiang Mai Province, and to explore the causes of overdue debts as well as behavior of overdue debtors in this program. The needed information was collected from 300 pertinent debtors. The analysis was based on the results of descriptive statistics and Likert scale method for ranking the relative importance of causes of overdue debts.
The study on the operation of the debt restructuring program in February 2016 revealed there were 500 overdue debtors in this program. In July 2016, 11 % of these overdue debtors were considered contributors to non-performing loans of the bank while the other 89 % remained in the program. Meanwhile 66 % of overdue debtors in the latter group could make loan repayments according to the established terms and condition in the debt restructuring program. Among those who managed to fulfill their commitment with the terms and condition of this program, 97 % still had outstanding debts with the bank while 3 % had already completely paid off their debts.
On the part of overdue debtors, the study found they were typically male, 39 years old on the average, with bachelor’s degree education, self-employed, and earning 25,001 – 45,000 baht monthly income. Their primary cause of overdue debts in most cases was from personal problem namely the increase in expenditure for taking care of the family and the decrease in household income level, and the next important cause was from external source namely the sluggish domestic economic condition and the government policy not encouraging for private and public investment and spending.
The overdue debtors in the debt restructuring program made borrowing from Kasikorn Bank on the average 3,236,792 baht per person, generally used title deed as loan collateral, and had averagely 15 years of loan repayment period. Currently, they had 2,676, 990 baht per person on the average outstanding debts with Kasikorn Bank. All of them chose to accept the debt restructuring term concerning reduction of interest rate and mostly the reduction of the level specified in the original contract down to 3 % annual interest rate. Furthermore, other options taken by the overdue debtors included the extension of loan repayment period and the change from short term loan to long term loan. After entering the debt restructuring program, each debtor paid on the average 8,833 baht monthly loan repayment installment.
Key word : Factors Causing Overdue Debts, debt restructuring, Kasikorn Bank
|