|
บทคัดย่อ (THAI):
|
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์การแข่งขันของตลาดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ศึกษาพฤติกรรมและปัจจัยที่มีผลต่อผู้ ประกอบการธุรกิจในการเลือกใช้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และศึกษาถึงความพึงพอใจของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในการใช้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยกับธนาคารกรุงไทย ในเขตจังหวัดพะเยา ข้อมูลที่ได้จากการศึกษามาจากแบบสอบถามผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ใช้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยกับธนาคารกรุงไทย ในเขตจังหวัดพะเยาจำนวน 96 ราย โดยทำการวิเคราะห์ข้อมูลในส่วนของสถานการณ์การแข่งขันของตลาดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของจังหวัดพะเยาโดยใช้ SWOT ANALYSIS ส่วนการศึกษาข้อมูลทั่วไปและพฤติกรรมการใช้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของกลุ่มตัวอย่างใช้การวิเคราะห์แบบสถิติเชิงพรรณนา ส่วนปัจจัยที่มีผลต่อผู้ประกอบการธุรกิจในการเลือกใช้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยกับธนาคารกรุงไทยใช้มาตรวัดแบบประเมินค่า และวัดระดับความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธีจัดอันดับ
ผลการศึกษาพบว่า ธนาคารกรุงไทยมีสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้ลูกค้าเลือกหลากหลายตามความเหมาะสมของกลุ่มอาชีพ มีอัตราดอกเบี้ยและอัตราค่าธรรมเนียมในการขอสินเชื่อค่อนข้างต่ำ แต่เนื่องจากธนาคารกรุงไทยเป็นธนาคารรัฐวิสาหกิจ ดังนั้นในการอำนวยสินเชื่อจึงมีขั้นตอนและกระบวนการที่ละเอียด ทำให้การบริการสินเชื่อค่อนข้างล่าช้า กลุ่มตัวอย่างพบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุ 40-49 ปี สถานภาพสมรส การศึกษาระดับปริญญาตรี ในส่วนของข้อมูลกิจการพบว่า ส่วนใหญ่จดทะเบียนธุรกิจประเภทบุคคลธรรมดา เงินทุนหมุนเวียนในกิจการต่อเดือนเฉลี่ย2,031,667 บาท และรายได้เฉลี่ยของกิจการต่อเดือนเฉลี่ย252,708 บาท กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ใช้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยประเภทสินเชื่อกรุงไทยบ้านแสนสะดวก โดยมีวัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เงินกู้ที่ได้รับการอนุมัติไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเฉลี่ย 5.48 % มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการขอสินเชื่อเฉลี่ย 7,697 บาท ระยะเวลาในการผ่อนชำระเฉลี่ย 21 ปี และผ่อนชำระต่องวดเฉลี่ย 19,117 บาท เมื่อเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมของกลุ่มตัวอย่างกับข้อมูลทั่วไปพบว่า ระยะเวลาในการผ่อนชำระกับอายุ ระดับการศึกษา และเงินทุนหมุนเวียนกิจการต่อเดือนมีความสัมพันธ์กัน ส่วนของเงินกู้ที่ได้รับการอนุมัติมีความสัมพันธ์กับเงินทุนหมุนเวียนกิจการต่อเดือนที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ผลการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อกลุ่มตัวอย่างในการเลือกใช้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในลำดับแรกคือ ปัจจัยด้านบุคลากรอยู่ในระดับมาก ตามด้วย ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์อยู่ในระดับมาก และปัจจัยด้านสถานที่อยู่ในระดับมาก กลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจมากที่สุดต่อภาพลักษณ์ที่ดี ความมีชื่อเสียง และมีความน่าเชื่อถือของธนาคารกรุงไทย ตามมาด้วย ทำเลที่ตั้งของธนาคารใกล้บ้าน เดินทางสะดวก และการได้รับโปรโมชั่นพิเศษ เช่น อัตราดอกเบี้ยต่ำ และส่วนลดค่าธรรมเนียมในลำดับถัดมา และกลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจน้อยที่สุดต่อการที่ธนาคารมีโครงการช่วยเหลือสังคมน้อย มีทางเลือกในอัตราดอกเบี้ยให้ลูกค้าเลือกน้อย และการที่ธนาคารมีสาขาให้บริการไม่เพียงพอ
|
|
Abstract:
|
This study aims to analyze the competitiveness in housing loan market of Krungthai Bank (KTB) in Phayao Province, examine loan use behavior and factors affecting business operators’ decision to choose home loan services offered by KTB in Phayao Province, and assess the satisfaction of small and medium sized business operators with the home loan services provided by KTB in Phayao Province. The information for this study was collected by means of questionnaire from 96 samples of those small and medium sized business operators who used home loan services of Krungthai Bank in Phayao Province. Specifically, information regarding SWOT (strengths, weaknesses, opportunities, and threats) was used for the analysis of the competiveness of KTB in housing loan market in Phayao Province. Descriptive statistics were used to conclude on the general background and behavior of the samples who obtained home loans from KTB in Phayao. Score assignment was the method for determining the factors that influence the choice of business operators under study to use home loan services of Krungthai Bank. Finally, priority ranking technique was employed to assess the satisfaction of the Bank’s customers with the use of KTB home loan services.
The study found that Krungthai Bank offered many options of home loan for customers to choose in the way suitable with their employment category, at light interest rates and rather low loan application fees. Being a state enterprise, KTB thus has complicated and detailed procedures in its operation giving rise to quite a time consuming process in its provision of loan services. From the personal background information, it was found that the majority of samples under study could be described as male, 40 -49 years old, married, bachelor’s degree graduate, owning business which is registered as natural person, having averagely 2,031,667 baht of working capital for running the business per month, and earning on the average 252,708 baht monthly business income. On loan use behavior, the study found that most samples opted for home loan in the category of Krungthai Ban SaenSaduak with the borrowing objective to buy land and housing estate, received loan approval for the limit not exceeding 2 million baht, paid 5.48 % interest rate on the average, spent 7,697 baht on the average for the loan application fee, with averagely 21 years of loan repayment period and 19,117 baht of monthly installment for loan repayment. The investigation on the relationship at 0.05 statistically significant level between loan use behavior and personal background revealed that in most cases the length of loan repayment period was associated with the age, education, and monthly business working capital variables; while the level of approved loan was related with the level of monthly business working capital. On factors affecting the decision of the samples under study to choose home loan services offered by KTB, the study found the most important factor to be personnel, followed by the factors of product and place respectively and all three factors were rated as highly important. From the assessment of the overall customers’ satisfaction with KTB’s home loan services, it was evident that the KTB’s feature which received the highest satisfaction was the good image, the reputation, and the trustworthiness of Krungthai Bank. This was followed by the convenient location of KTB branch which is close to home and easy to travel to, and the special promotion campaign such as low interest rate and discounted fee, in descending order. Assessed as lowly satisfactory were the facts that KTB has few social contribution programs and activities, that there are few interest rate options for customers to consider, and that the KTB branches are not adequate.
|